วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

เคล็ดลับกับการลงทุน

เคล็ดลับการลงทุนของบัฟเฟตต์

          หากคุณอยู่ในแวดวงตลาดหุ้นและการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นแนวไหน แน่นอนว่า ทุกคนย่อมต้องรู้จัก วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้ร่ำรวยมาจากการทำธุรกิจ แต่ร่ำรวยมาจากการลงทุนและการบริหารเงินด้วยความเฉลียวฉลาดรอบคอบ

          ด้วยความที่เขาเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยชอบออกสื่อ จึงไม่ค่อยมีใครได้รู้เทคนิคในการลงทุนจากปากของเขาเองมากนัก มีแต่คนอื่นๆ ที่พยายามวิเคราะห์ลักษณะการลงทุนของเขาแล้วสรุปออกมาเป็นเทคนิคต่างๆ ถ้าเราอยากจะทราบข้อมูลจากปากของเขาเองจริงๆ แหล่งข้อมูลเดียวที่พอจะเข้าถึงได้คือ จดหมายที่เขาเขียนถึงผู้ถือหุ้นบริษัท BERKSHIRE HATHAWAY INC ปีละครั้งเป็นประจำทุกปี




           “25 เคล็ดลับการลงทุนของบัฟเฟตต์” แปลจากหนังสือเรื่อง Buffett’s Bites เป็นหนังสือที่กรั่นกรองออกมาจากจดหมายถึงผู้ถือหุ้นของบัฟเฟต์ประจำปี 2008 เคล็ดลับแต่ละข้อจะให้ข้อคิดกำลังใจนักลงทุนในยามที่ตลาดกำลังผันผวน ยกตัวอย่างอาทิ 

ข้อ เลือกความเรียบง่ายมากกว่าความซับซ้อน
          Buffett แนะนำว่า เมื่อลงทุน ทำให้เรียบง่าย ชัดเจน อย่าพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อน จากคำถามที่ซับซ้อน"

ข้อ ตัดสินใจลงทุนด้วยตัวคุณเอง
          อย่าเชื่อโบรกเกอร์ผู้รู้หรือนักวิเคราะห์แต่เพียงอย่างเดียว จงเชื่อตัวเองด้วย แต่ไม่ใช่หมายความว่าเราจะปิดหู ปิดตาไม่รับรู้ข้อมูลใดๆ เลย เพียงแต่เมื่อได้ข้อมูลมาเราต้องนำมาวิเคราะห์ แยกแยะ และตัดสินใจด้วยเหตุผล รวมทั้งต้องศึกษาประวัติพื้นฐานของบริษัทมาให้ดีก่อนที่จะลงทุน และไม่ควรลงทุนโดยฟังจากผู้เชี่ยวชาญในตลาดโดยปราศจากการไตร่ตรอง

ข้อ จงมีสติ
          ปล่อยให้คนอื่นๆ ตื่นตระหนกไปกับตลาด แล้วเมื่อมันสงบคุณจะได้ประโยชน์จากมัน” การมีสติยังหมายถึงการมี วินัย” เมื่อตลาดพุ่งทะยานขึ้น พร้อมกับสถานการณ์ที่คนอื่นๆ กำลังจะละโมบและดีใจเมื่อหุ้นขึ้น แต่เราต้องมีสติ เพราะสติเป็นตัวจักรสำคัญเมื่อสิ่งต่างๆไม่ได้เป็นไปตามที่คุณคาดไว้ในตอนแรก อย่าอ่อนไหวไปกับความผันผวนของตลาดโดยขาดสติ

ข้อ จงอดทน
          การลงทุนคือการหาบริษัทดีๆ สัก 2-3 บริษัทแล้วนั่งทับมันไว้ นอกจากนี้ ความผิดพลาดในการลงทุนเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด และความอดทนที่น้อยเกินไปคือส่วนหนึ่งของความหงุดหงิดนั้น สำหรับ Buffett ผู้เป็นนักลงทุนมาเป็นระยะกว่าทศวรรษ แทนที่จะเป็นนักลงทุนรายวัน เพราะเขามองหาทางทำกำไรจากบริษัทไม่ใช่การทำกำไรจากตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเป็นเพียงแค่สื่อกลางในการเสนอราคาเท่านั้น ง่ายๆ คือ Buffett ซื้อหุ้นแล้ว Let profit run เพียงแต่คุณต้องหาบริษัทที่ดีมากๆๆ ให้เจอแล้วกอดมันไว้กับคุณนาน และเมื่อเวลามันราคาตกก็ทยอยซื้อเก็บไว้ รอให้ตลาดมองเห็นสูงค่าที่แท้จริงของมัน

ข้อ ซื้อธุรกิจไม่ใช่ซื้อหุ้น
          Buffett กล่าวว่า จงจำไว้ว่าเมื่อคุณซื้อหุ้น คุณได้ซื้อส่วนของธุรกิจนั้นจริงๆ หุ้นไม่ได้มีอะไรในตัวมันเอง นอกจากการเป็นตัวแทนกิจการ

ข้อ จงมองหาบริษัทที่มี Franchise
          บริษัทที่มี Franchise เปรียบเสมือนธุรกิจที่มีกำแพงและคูเมืองล้อมรอบเพราะสามารถป้องกันและต้านทานศัตรูได้ ในที่นี้ในความหมายของ Buffett หมายถึงธุรกิจที่มีสิทธิพิเศษบางอย่างและสามารถรับประกันได้ความสำเร็จของธุรกิจ

ข้อ ซื้อ Low Tech ไม่ใช่ High Tech
          Buffett ซื้อบริษัททำอิฐ บริษัทสี บริษัทพรม บริษัทเฟอร์นิเจอร์และบริษัทชุดชั้นใน ธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกิจที่เขารักที่จะเป็นเจ้าของ เพราะมันสามารถเข้าใจง่าย มั่นคงด้วยกระแสเงินสดที่คาดเดาได้ ไม่มีอะไรหวือหวาน่าตื่นเต้น แต่เป็นธุรกิจที่ดี บริษัทเข้มแข็งจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง สามารถนำรายได้และผลกำไรที่เติบโตขึ้นทุกๆ ปี แต่เขาจะไม่ซื้อบริษัทที่เป็นคลื่นลูกใหม่ ใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพราะผลตอบแทนที่ได้จากธุรกิจประหลาดๆ เหล่านี้มักจะไม่ค่อยตกไปถึงมือนักลงทุน

ข้อ ลงทุนแบบมุ่งเน้นคุณค่า (Value Investing)
          ถ้าคุณพบหุ้นที่ดี ทำไมคุณถึงซื้อหุ้นแค่นิดเดียว” เขาเชื่อมันในการลงทุนแบบนี้ และปฏิเสธการกระจายความเสี่ยง เพราะจะสร้างผลตอบแทนอย่างน่าอัศจรรย์ในระยะยาว

ข้อ ฝึกที่จะอยู่นิ่ง
          Buffett ชอบซื้อหุ้น แต่สำหรับการขายหุ้นนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาเปรียบนักลงทุนที่ชอบการเคลื่อนไหวว่าเหมือนกับผึ้งที่ชอบตอมดอกไม้ไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น

ข้อ 10 อย่ามองตัววิ่ง (ราคาหุ้น)
          ราคาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของนักเก็งกำไร แต่การลงทุนเป็นอะไรที่มากกว่าราคา ถ้าคุณเป็นนักลงทุนแนวเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่ไม่สนใจการเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาหุ้นในระยะเวลาสั้นๆ ถ้าคุณเป็นเจ้าของหุ้นในธุรกิจที่ดี คุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับราคาหุ้นในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวนั้น พื้นฐานของธุรกิจจะเป็นผู้ดูแลราคาของคุณเอง
  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น