วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

พอร์ตติดลบหนัก เพราะอะไร ทำไงดี..!

พอร์ตติดลบหนัก เพราะมีมะเร็งร้ายในพอร์ตรึเปล่า?
          หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า มะเร็ง” ในความหมายของโรคร้ายที่จะมาทำลายสุขภาพของเรา มะเร็งมีลักษณะเป็นเนื้อร้ายที่ค่อยๆ แผ่ขยายกัดกลืนแต่ละส่วนของร่างกายเรื่อยๆ จนร่างกายเราเสื่อมสภาพ หากรักษาไม่ทัน ก็ส่งผลถึงขั้นเสียชีวิต แต่รู้รึเปล่าว่าในแง่ของพอร์ตการลงทุน เราก็อาจจะเผลอสะสมมะเร็งร้ายไว้โดยไม่รู้ตัว หรือบางคนอาจจะรู้ตัวแต่ไม่กล้าตัดออก

          ลองมาดูกันว่ามะเร็งร้ายในพอร์ตหน้าตาเป็นยังไง แล้วเราควรจะจัดการกับมันยังไงดีก่อนจะสายเกินไป?



มะเร็งร้ายในพอร์ตการลงทุน หน้าตาเป็นยังไง?
          หากเปรียบพอร์ตการลงทุนเป็นเหมือนร่างกาย เราอาจจะรู้ว่ามีมะเร็งก็ต่อเมื่อเราเห็นว่าร่างกายเริ่มแสดงออกถึงภาวะผิดปกติ มีอาการเจ็บปวด สมรรถภาพของอวัยวะอ่อนแอลง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็มักจะสายไปแล้ว ถ้าเป็นพอร์ตการลงทุน ก็คือพอร์ตที่ขาดทุนจนยากจะกู้คืน
       ถามว่าทำไมถึงยากล่ะเพราะตอนที่เรายังขาดทุนไม่เยอะ เรามักจะคิดว่า เดี๋ยวมันก็กลับมา” เห็นตัวเลขขาดทุนยังน้อยก็ไม่รู้สึกสะเทือนมากนัก แต่ในหลายๆ ครั้ง สถานการณ์มักจะไม่เอื้ออำนวยต่อความคิดของเรา และถึงแม้ว่าเราจะพอรับทราบสถานการณ์รอบตัวว่าเราควรตัดขาดทุน (Cut Loss) 
       แต่บางคนก็ไม่กล้า กลัว และรู้สึกว่าหากอดทนอีกนิดก็อาจจะผ่านพ้นสภาวะนี้ไปก็ได้ โดยลืมฉุกคิดไปว่ามันอาจจะใช้เวลานานมาก กว่าเราจะกลับไปสู่จุดเดิมที่พอร์ตสุขภาพดีได้อีกครั้ง

สาเหตุของมะเร็งร้ายในพอร์ตการลงทุน
          ถ้าเป็นร่างกาย สาเหตุก็จะมาจากพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมของเราที่ทำร้ายร่างกายนั่นเอง พอร์ตการลงทุนก็ไม่ต่างกันเท่าไรนัก
          บางคนอาจจะมีพฤติกรรม “เชื่อเพื่อน” เห็นว่าใครแนะนำสินทรัพย์ไหน ก็ลงทุนตามนั้นโดยขาดการไตร่ตรองหรือศึกษาให้ชัดเจน
          บางคนอาจจะมีพฤติกรรม “กลัวตกรถ” คือพอเห็นว่าสินทรัพย์ไหนกำลังราคาพุ่งแรง ก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปซื้อด้วยทันที โดยขาดการศึกษาเพิ่มเติมว่าราคาตอนนี้เหมาะสมมั้ย
          บางคนอาจจะมีพฤติกรรม “ขี้เกียจ” คือขี้เกียจศึกษา ขี้เกียจทำความเข้าใจว่าพอร์ตการลงทุนที่ดีควรมีสินทรัพย์แบบไหน เท่าไร ในสถานการณ์แบบไหน
          นอกเหนือจากพฤติกรรมของบุคคลแล้ว สภาพแวดล้อมก็มีส่วน ในแง่ของการลงทุนก็คือสภาวะตลาดนั่นเอง บางทีเราอาจจะไม่ได้มีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งโดยตรง แต่เราเผลอไปอยู่ในจุดที่สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เช่น
          เข้าตลาดในช่วงที่ฟองสบู่กำลังจะแตก
          ลงทุนในช่วงที่ตลาดซึมยาว
          ลงทุนในอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นขาลง
          ซึ่งอันที่จริงแล้วในหลายๆ กรณี สิ่งเหล่านี้เป็นผลกระทบทางอ้อมจากการที่เราไม่ได้ศึกษาตลาดให้ดีพอ แต่บางกรณีก็มีนะที่เราคิดว่าศึกษาดีแล้ว แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น อันนี้ต้องเรียกว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
          หากปล่อยให้มะเร็งร้ายอยู่ในพอร์ตการลงทุนของคุณนานๆ เข้าจะเกิดอะไรขึ้น?
          แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ที่จะปล่อยให้มะเร็งฝังอยู่ในพอร์ตของคุณนานๆ เพราะนั่นหมายความว่าสุขภาพพอร์ตของคุณจะย่ำแย่ลงเรื่อยๆ หนักสุดคืออาจขาดทุนหมดเกลี้ยงเลยก็ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกเพราะคนที่เข้ามาลงทุนนั้นหวังผลตอบแทนกันทั้งนั้น
          ในกรณีที่เบาหน่อย มะเร็งนั้นอาจจะมีวันหาย หากคุณเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถรักษามะเร็งได้ภายในวันสองวัน เป็นไปได้ว่าเราอาจจะต้องใช้เวลานานหลายปีเลยทีเดียวกว่าจะกอบกู้สุขภาพพอร์ตกลับมาให้ไม่ขาดทุนได้ ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น อันที่จริงแล้วหากเรานำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น เราอาจจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าก็ได้

วิธีป้องกันไม่ให้พอร์ตการลงทุนเป็นมะเร็งร้าย
          แน่นอนว่าวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการป้องกันก่อนที่จะเป็นมะเร็ง หากวันนี้พอร์ตของคุณยังสุขภาพดีอยู่ หรือ ยังขาดทุนเพียงน้อยนิด เราก็ไม่ควรอยู่เฉย หมั่นศึกษาหาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่ว่าเราจะได้เท่าทันทุกสถานการณ์การลงทุน ไม่ตกข่าว รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ เราควรจัดพอร์ตแบบไหนถึงจะตรงตามเป้าหมายการลงทุนที่สุด นอกจากนี้ เราควรตรวจสอบพอร์ตของเราเรื่อยๆ แล้วตั้งคำถาม อย่างเช่น
          สินทรัพย์แต่ละตัวสร้างผลตอบแทนเป็นยังไงบ้าง ตรงตามที่เราคาดหวังมั้ย
          สัดส่วนของสินทรัพย์แต่ละแบบเกินหรือขาดจากที่เราวางแผนไว้ขนาดไหน เราควรปรับพอร์ตรึยัง
          ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่เราข้องเกี่ยวอยู่นั้นมีแนวโน้มเป็นยังไงบ้าง
          มูลค่าของสินทรัพย์ที่เราถือตอนนี้สูงเกินไปรึยัง
          เราพร้อมตัดขาดทุนเมื่อขาดทุนไปเท่าไร
          สิ่งที่สำคัญคือตั้งเป้าหมายการลงทุนของเราให้ชัดเจน วางกลยุทธ์ให้ชัดว่าเราจะตัดขาดทุนตอนไหน หมั่นตรวจสอบสุขภาพพอร์ตของเรา และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอยู่เสมอ
          แล้วถ้าพอร์ตการลงทุนของเราเป็นมะเร็งไปแล้วล่ะ?
          มันอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่เราควรหาเวลาพิจารณาว่าเราควรตัดเนื้อร้ายส่วนไหนทิ้งไปบ้างมั้ย โดย ลองถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองดู
          สินทรัพย์ตัวไหนที่ดูเหมือนว่าจะไม่สร้างผลตอบแทนให้เราเลย
          เราสามารถย้ายเงินไปไว้ที่สินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าได้มั้ย
          ธุรกิจไหนที่ดูท่าแล้วไม่น่ามีอนาคตที่ดี อุตสาหกรรมไหนที่มีแนวโน้มเป็นขาลง
          หากเราเจอเนื้อร้ายในพอร์ตการลงทุน เราก็ควรใจแข็งตัดทิ้งออกไปเสีย ก่อนที่มันจะลุกลามแล้วทำให้พอร์ตของเราเสียหายหนักยิ่งขึ้น ตรงนี้เป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างยากสำหรับหลายๆ คน เพราะเรามักจะรู้สึกเสียดายและกลัวการเสียเงินจริงๆ ทำให้ไม่กล้าตัดขาดทุน แต่ถ้าเราเปรียบให้สินทรัพย์เป็นเนื้อดีเนื้อร้าย มองว่าการตัดเนื้อร้ายไปบางส่วนจะช่วยให้กอบกู้สุขภาพพอร์ตการลงทุนได้ง่ายขึ้น ก็จะทำให้เราทำใจตัดขาดทุนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ไม่กล้าตัดสินใจรักษามะเร็งเอง ให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยวินิจฉัยแล้วรักษาให้ได้มั้ย?
          หากเป็นร่างกาย ถ้าเป็นมะเร็งเราก็ควรไปหาหมอ แล้วถ้าเป็นพอร์ตการลงทุนล่ะหลายๆ คนอาจจะไม่มั่นใจที่จะกอบกู้พอร์ตของตัวเอง อยากจะได้คำแนะนำจากผู้รู้สักคนให้ช่วยมาดูแลรักษาพอร์ตให้ ใครที่กำลังตามหาหมอรักษาพอร์ต มีข่าวดีคือโบรคเกอร์ต่างๆ เค้ามีบริการที่จะช่วยตอบโจทย์ นั่นก็คือซึ่งจะช่วยวินิจฉัยพอร์ตการลงทุนของเราไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะไหน เราสามารถส่งข้อมูลพอร์ตการลงทุนให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยวิเคราะห์ได้ว่าเราควรจัดการพอร์ตต่อไปแบบไหน ควรตัดเนื้อร้ายส่วนไหนทิ้งมั้ย มีส่วนไหนที่กำลังจะเป็นเนื้อร้าย หรือมีส่วนไหนที่ปลอดภัย เก็บไว้ได้ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น